รุ่นที่ 2 (พ.ศ. 2554-ปัจจุบัน) ของ เชฟโรเลต โคโลราโด

เชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นที่ 2

รุ่นนี้ เปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2554 มีเกียร์ 2 แบบคือ เกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และมีเครื่องยนต์ 2 แบบคือ 2.5 และ 2.8 ลิตร โดยในประเทศบราซิลใช้ชื่อว่า เชฟโรเลต S-10 (อังกฤษ: Chevrolet S-10) ซึ่งเป็นชื่อของรถกระบะรุ่นเดิม และการออกแบบโคโลราโดรุ่นนี้ได้ถูกนำไปใช้ออกแบบเชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ (อังกฤษ: Chevrolet Trailblazer) ด้วย

รุ่นปรับโฉม

เชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นปรับโฉม

รุ่นปรับโฉม ได้เปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรกในโลกในเดือนเมษายน พ.ศ. 2559 โดยใช้ชื่อว่า All-New Chevrolet Colorado เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงที่มากมายแต่ยังเป็นรุ่นปรับโฉมเนื่องจากยังใช้โครงสร้างพื้นฐานของตัวรถเหมือนเดิม

ในรุ่นปรับโฉมได้ใช้เครื่องยนต์ดีเซลปรับปรุงใหม่ Duramax XLDE25 ขนาด 2.5 ลิตร และไม่ทำเครื่องยนต์ 2.8 ลิตรต่อเนื่องจากความต้องการของตลาดลดลง มีระบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะและเกียร์อัติโนมัติ 6 จังหวะ ส่วนพวกมาลัยได้ปรับเปลี่ยนเป็นพวงมาลัยไฟฟ้า

ภายนอกมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือ กระจังหน้ามีการออกแบบใหม่ให้ดูมีความสปอร์ตขึ้น สำหรับไฟหน้าได้เพิ่ม Daytime Running Light (DRL)

เชฟโรเลต โคโลราโด เซนเทนเนียล เอ็ดดิชัน

ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เชฟโรเลตได้ฉลองครบรอบรถกระบะของค่าย 100 ปี โดยได้ทำรุ่นพิเศษขึ้นมาในชื่อ เชฟโรเลต โคโลราโด เซนเทนเนียล เอ็ดดิชั่น โดยได้ตกแต่งสติ๊กเกอร์สีดำบนกระโปรงรถ ล้ออัลลอยสีดำ 18 นิ้วพร้อมกับชุดแต่งชุดล้อ สปอร์ตบาร์ ตราสัญลักษณ์สีดำและมีหมายเลขประจำตัวรถเฉพาะคัน โดยรุ่นพิเศษนี้ได้ผลิตออกมาเพียง 100 คันเท่านั้น

  • Pre-facelift Holden Colorado
  • Facelift Holden Colorado

แต่มีข่าวมาว่า เชฟโรเลต เตรียมประชุมดีลเลอร์ ระบายรถค้างสต็อก 4,000 คัน คาดอาจจัดแคมเปญลด แลก แจก แถม หลังประกาศปิดโรงงานในไทย และมีประกาศเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 ทางบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส หรือ จีเอ็ม เตรียมยุติการจัดจำหน่ายรถยนต์ เชฟโรเลตในตลาดประเทศไทยภายในสิ้นปี 2563 แต่ยังคงเปิดให้บริการหลังการขาย เช่น การรับประกันคุณภาพรถยนต์ การซ่อมบำรุงและการบริการต่าง ๆ ให้แก่ลูกค้าเก่า ผ่านเครือข่ายของศูนย์บริการที่ได้รับการแต่งตั้งจากเชฟโรเลตทั่วประเทศ

Chevrolet โดยบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (General Motors) ประกาศเลิกขายรถยนต์เชฟโรเลตในประเทศไทยภายในสิ้นปี 2563 เหตุขายศูนย์การผลิตให้บริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนและปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย แต่ยืนยันยังเปิดให้บริการหลังการขายต่อไป ระบุยอดขาย-ส่งออกไม่สามารถแข่งขันได้ เผยขายโรงงานผลิตระยองให้เกรทวอลล์ ธุรกิจรถยนต์รายใหญ่จากจีนแล้ว

เนื่องจาก เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) จะยุติการจัดจำหน่ายรถยนต์ เชฟโรเลตในตลาดประเทศไทยภายในสิ้นปี 2563 แต่จะยังคงให้บริการหลังการขายแก่ลูกค้าเชฟโรเลต อาทิ การรับประกันคุณภาพรถยนต์ การซ่อมบำรุง และการบริการต่างๆ ผ่านเครือข่ายของศูนย์บริการ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากเชฟโรเลตทั่วประเทศ หลังจากที่มีการขายศูนย์การผลิตรถยนต์และเครื่องยนต์ของจีเอ็ม ประเทศไทย ในจังหวัดระยองให้แก่ เกรท วอล มอเตอร์ส[1]

หลายท่านน่าจะทราบข่าวใหญ่เรื่อง General Motors (GM) ประกาศยุติการทำตลาดในประเทศไทยไปแล้ว และ ประเทศไทยไม่ใช่ที่เดียว ที่เจอชะตากรรมนี้ เพราะ แบรนด์ Holden ในออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ กำลังจะมาถึงบทสุดท้ายแล้วเช่นกัน โดยบริษัทระบุว่าจะปิดตัวแบรนด์ และ ยุติกิจการเกือบทั้งหมดของ Holden ภายในปี 2021 เมื่อมองกลับย้อนไปช่วงปี 2017 เดือน ตุลาคม โรงงาน Holden ใน Elizabeth Plant, Australia ที่เปิดมายาวนาน 69 ปี ก็ได้ปิดตัวลงไปก่อนหน้า

สรุปใจความสำคัญ ภาพรวมได้ว่า General Motors (GM) จะทิ้งตลาด SEA (South East Asia : เอเชียตะวันออกเฉียงใต้) ทั้งหมด เหลือ ทำตลาดแค่ อเมริกา และ จีน เท่านั้น[2]